ค้นหา
TREATMENT
กำจัดขน กระชับผิว เส้นเลือดฝอย
Hair Removal, Broken veins, Rejuvenation & Tightening
Nobleen : Long Pulse ND Yag Laser 1064 & 755 nm
2 ช่วงคลื่นในเลเซอร์ 1 เดียว
 

 

55th Clinic ลิขสิทธิ์นำเข้าเลเซอร์กำจัดขน Premium เครื่องแรกและเครื่องเดียวในไทย ปี 2566
 
ได้รับการรับรองจาก อย.และ U.S. FDA
ปลอดภัย
ประสิทธิภาพการกำจัดขนเหมาะสำหรับผิวเอเชียโดยเฉพาะ
โหมด 755 nm เฉพาะเจาะจงกำจัดขนอ่อนได้ดี
ปรับสีผิวขาวใส จุดด่างดำ ฝ้า กระ
ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย
 



 
 
 


ทำไมต้องทำ NOBLEEN LASER ที่ 55th Laser Clinic
  • ลิขสิทธิ์นำเข้าเครื่องแรกและเครื่องเดียวในไทย ปี2566
  • ปลอดภัยได้รับการรับรองจาก อย. และ U.S. FDA
  • ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย
  • โหมด 755 nm เฉพาะเจาะจงกำจัดขนอ่อนได้ดี
  • ปรับสีผิวขาวใส จุดด่างดำ ฝ้า กระ
  • ประสิทธิภาพการกำจัดขนเหมาะสำหรับผิวเอเชียโดยเฉพาะ
 
 
 
Nobleen คืออะไร 

Nobleen เป็นเลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่นแสงสูง ทำให้แสงสามารถผ่านลงไปสู่ผิวได้ลึกกว่า เมื่อเทียบกับเลเซอร์อื่นๆ จึงแก้ปัญหาต่าง ๆ ของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบน Spray ให้ความเย็น ที่จะออกมาก่อนการยิงเลเซอร์ เพื่อปกป้องผิวหนังชั้นบนไม่ให้ถูกทำลาย ผลข้างเคียงจึงเกิดได้น้อย
 

Nobleen สามารถรักษาอะไรได้บ้าง
  • ขนคุด (PFB)
  • รักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น (Wrinkles)
  • ยกกระชับหน้า (Tightening)
  • รักษาเส้นเลือดขอด (Leg Vein) ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 มม. ตามใบหน้าและร่างกาย
 

 

 
  • เลเซอร์กำจัดขน ลดขนคุด
  • หน้าใส ลดริ้วรอย
  • กระชับรูขุมขน ลดสิวเสี้ยน
  • ยกกระชับหน้า คอ และผิว
  • เส้นเลือดฝอย เส้นเลือดขอด 
ขั้นตอนการรักษาโดยใช้เลเซอร์ Nobleen จะเริ่มจากการใช้แสงเลเซอร์ต่ำๆบนส่วนที่เกิดอาการเพื่อขจัดขนที่งอกอย่างผิดปกติ หรือบริเวณที่ไม่ต้องการนั้นออกไป กรณีรักษาริ้วรอยหรือยกกระชับผิวโดยใช้แสงเลเซอร์เป็นวิธีการลดริ้วรอยบนส่วนต่างๆของร่างกายที่ไม่ต้องใช้วิธีผ่าตัด หรือเข็มฉีดยา ขณะรักษาจะรู้สึกอุ่นๆบริเวณที่ใช้แสงเลเซอร์ หากเป็นกรณีที่รักษาเส้นเลือดขอด อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
 

( หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” ) 

 

 
Nobleen คืออะไร?
Nobleen เป็นเลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่นแสงสูง ทำให้แสงสามารถผ่านลงไปสู่ผิวได้ลึกกว่า เมื่อเทียบกับเลเซอร์อื่นๆ จึงแก้ปัญหาต่าง ๆ ของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี DCD™ ซึ่งเป็นระบบพ่นSpray ให้ความเย็น ที่จะออกมาก่อนการยิงเลเซอร์ เพื่อปกป้องผิวหนังชั้นบนไม่ให้ถูกทำลาย ผลข้างเคียงจึงเกิดได้น้อย
 

Nobleen สามารถรักษาอะไรได้บ้าง?
องค์การอาหารและยา แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ให้การรับรองว่า GentleYAG มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษาภาวะ : 
  • รักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น (Wrinkles)
  • ยกกระชับหน้า (Tightening)
  • ขนคุด (PFB)
  • รักษาเส้นเลือดขอด (Leg Vein) ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 มม. ตามใบหน้าและร่างกาย
 
 

Nobleen ช่วยทำให้ผิวเนียนกระชับ ไร้ริ้วรอย ได้อย่างไร?
เมื่อแสงเลเซอร์ของ Nobleen ส่งพลังงานความร้อนลงไปยังผิวชั้นหนังแท้ กระตุ้นการสร้างเส้นใยCollagen ใหม่เพื่อไปทดแทนเส้นใย Collagen เก่าที่เสื่อมสลายไปตามวัย ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ลดลง สภาพผิวเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำการรักษา ไม่มีบาดแผลหรือรอยด่างดำหลังการรักษา
 
Nobleen กำจัดขนได้อย่างไร?
เนื่องจาก Nobleen เป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นของแสงสูง และผ่านลงไปยังผิวได้ลึก สามารถทำลายรากขน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเส้นขน Nobleen นำมาใช้ในการกำจัดขนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้สำหรับคนทุกสีผิว โดยปราศจากการทำลายรูขุมขน สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย จึงทำให้ Nobleen เป็นเลเซอร์ที่แพทย์ทั่วโลกนิยมใช้
 

 


การรักษาเจ็บหรือไม่?
กรณีใช้รักษาริ้วรอย คุณจะรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ทำการรักษา โดยไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างไร หากเป็นกรณีที่ต้องการกำจัดขนหรือเส้นเลือดขอด อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
 
จะรู้สึกอย่างไรหลังการรักษา?
ผิวบริเวณที่รักษาอาจจะมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อย แต่ผิวจะกลับสู่สภาพปกติ ภายในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง คุณสามารถแต่งหน้าได้เป็นปกติหลังการรักษา ควรทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันแสงแดดที่จะทำลายผิวได้

 
 

ก่อน และหลังการรักษา Nobleen มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนแค่ไหน ?
จากการทำวิจัย โดยใช้เลเซอร์ Nobleen ในการกำจัดขน โดย E. Victor Ross และ Lori M. Hobbs แพทย์ผิวหนังใน ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าในคนไข้ 100 ราย ที่ทำการรักษาหลังการรักษาครั้งแรกปริมาณขนลดลง 20-40% ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการกำจัดขน 
 
 

 ( หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” ) 


การกำจัดขน สามารถทำได้ทั้งขนเส้นบางและเส้นหนา ซึ่งเลเซอร์รุ่นอื่น ๆ ส่วนใหญ่ สามารถกำจัดขนได้เฉพาะเส้นหนา แต่ไม่สามารถกำจัดขนเส้นบางได้
 
คำแนะนำก่อนและหลังการทำเลเซอร์กำจัดขน
ก่อนการทำเลเซอร์
  1. ก่อนทำเลเซอร์ 1 สัปดาห์ ไม่ควรทำกิจกรรมที่ตากแดดกลางแจ้งเป็นเวลานาน เช่น เที่ยวทะเล, ตีกอล์ฟ, เล่นน้ำสงกรานต์ เป็นต้น หากเพิ่งตากแดดแรงมา ควรรอ 1-2 สัปดาห์จึงทำเลเซอร์
  2. ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบหากมีโรคประจำตัว หรือกินยาบางชนิดเป็นประจำ
  3. หากมีการรักษาด้วยเลเซอร์ ทำทรีทเมนต์ หรือใช้ยาทา ยากิน จากสถานพยาบาลอื่นร่วมด้วย ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเสมอ
  4. งดการทำทรีทเมนต์ และการใช้สารบำรุงที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ หากไม่แน่ใจควรนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้มาปรึกษาแพทย์
  5. ไม่ถอน ในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนการทำเลเซอร์ หากมีการถอนมาก่อน ควรรอประมาณ 3 สัปดาห์จึงทำเลเซอร์
  6. เจ้าหน้าที่จะทำการโกนขนให้ก่อนการทำเลเซอร์ แต่หากต้องการโกนขนด้วยตนเอง ควรโกนมาก่อนประมาณ 1-2 วัน
  7. ไม่ควรทำเลเซอร์ขนถี่หรือเร็วเกินกว่าที่แพทย์นัด
 
 


หลังการทำเลเซอร์
  1. หากกำจัดขนรักแร้ควรงดการทาสารระงับกลิ่น 2-3 วัน เพื่อลดการระคายเคือง
  2. ไม่ใช้สารบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA หรือกรดผลไม้  หากไม่แน่ใจควรนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้มาปรึกษาแพทย์
  3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการตากแดดกลางแจ้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เช่น ว่ายน้ำ,ตีกอล์ฟ,ขับรถทางไกล,เที่ยวทะเล
  4. งดกิจกรรมที่มีการใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า โยคะร้อน อบไอน้ำ เป็นเวลา 2-3 วัน
  5. หลังทำเลเซอร์ในช่วง 1-2 วันแรก อาจรู้สึกเจ็บ หรือปวดบริเวณผิวหนัง สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้ แต่หากมีอาการแสบร้อนผิดปกติ หรือมีตุ่มพองบริเวณที่ทำเลเซอร์ ควรรีบขอคำปรึกษาหรือกลับมาพบแพทย์
  6. หากขนยาวขึ้นและต้องการกำจัด ให้ใช้วิธีโกน ไม่ถอน
  7. หลังทำเลเซอร์ขนอาจยังไม่หลุดทันที แต่อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์จะหลุดเอง
  8. ควรทำการรักษาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์นัดเพื่อผลการรักษาที่ดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ Call Center 02-2313394
และขอขอบคุณคนไข้ เจ้าของภาพทุกท่านที่อนุญาตให้ประชาสัมพันธ์การรักษา&เข้ารับบริการที่ 55th Clinic
 

( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” ) 
ขอบคุณเครดิตและกำลังใจจากเจ้าของภาพที่น่ารักทุกท่าน สำหรับการมอบความไว้วางใจให้ 55th Clinic, Silom Complex ดูแลนะคะ ;)
 


( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” ) 
ขอบคุณเครดิตและกำลังใจจากเจ้าของภาพที่น่ารักทุกท่าน สำหรับการมอบความไว้วางใจให้ 55th Clinic, Silom Complex ดูแลนะคะ ;)
 
 
( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” ) 
ขอบคุณเครดิตและกำลังใจจากเจ้าของภาพที่น่ารักทุกท่าน สำหรับการมอบความไว้วางใจให้ 55th Clinic, Silom Complex ดูแลนะคะ ;)
 

( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” ) 
ขอบคุณเครดิตและกำลังใจจากเจ้าของภาพที่น่ารักทุกท่าน สำหรับการมอบความไว้วางใจให้ 55th Clinic, Silom Complex ดูแลนะคะ ;)
 
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 

สวัสดีค่ะ หมอเชอร์รี่นะคะ หมอตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา ชวนทุกๆคนที่รักสุขภาพผิว มาเตรียมผิวสู้อากาศร้อนกันค่ะ
 

มาดูกันค่ะ ว่าเวลาหน้าร้อนแบบนี้ เรากลัวปัญหาอะไรกันบ้าง ?

1. หน้าดำ กระ ฝ้า : มีใครไม่กลัวแดดกันบ้างไหมคะ? ยกมือขึ้น วิธีเตรียมตัวง่ายที่สุดคือ อย่างที่เราทราบกันนะคะ - ใส่หมวกปีกกว้าง ,กางร่ม, ทาครีมกันแดด ( สำหรับการเลือกครีมกันแดดอย่างไร? .. หมอได้เขียนไว้ในบทความถัดไปแล้วค่ะ )
  • สำหรับท่านที่ถามว่า มีวิธีไหน หรือตัวช่วยบ้างไหม ? ที่อยากให้หน้าใส ลดผิวหมองคล้ำ เตรียมพร้อมสู้แดด
  • ถ้าถามมาแบบนี้ ก็ต้องตอบว่า บำรุงผิวโดยเริ่มจากดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันก่อน เป็นการดีที่สุดค่ะ เริ่มตั้งแต่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวตัวเองทุกวัน ทั้งกลุ่มทำความสะอาดผิว Makeup Cleansing , เจลหรือโฟมล้างหน้า, ครีมบำรุง
  • ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องเบื้องต้นที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วค่ะ แต่ทั้งนี้กรณีเร่งด่วน แบบว่า เราเรียน/ทำงานหนักมาตลอด ไม่ค่อยมีเวลาจะดูแลอย่างดีมาทุกวันนี่นา
.. แต่อยากไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาว แบบหน้าใส ไม่โทรมกับเค้าบ้าง ... ก็พอจะมีตัวช่วยบ้างค่ะ

ถามว่าเลือกตัวช่วยยังไงดี? พอถึงตรงนี้ ต้องขอเล่าถึงเครื่องมือแบบที่อธิบายหลักการของแต่ละเครื่องเข้าไปด้วยนะคะ ส่วนตัดสินใจจะทำแบบไหนขึ้นกับสภาพผิวและเวลาที่สามารถมาดูแลได้ของแต่ละคนด้วยค่ะ

มาดูกันค่ะ ว่ามีตัวช่วยอะไรบ้าง? ขออนุญาตเล่าแต่วิธี/เครื่องมือที่ 55th Clinic มีไว้ดูแลคนไข้นะคะ ;)

1.1 ) Infusion : เป็นการบำรุงผิวด้วยการผลักวิตามินผ่านกระบวนการที่เราเรียกทางการแพทย์ว่า Electroporation หรือถ้าอธิบายให้เห็นภาพ ทางบริษัทจากอเมริกาผู้ผลิตใช้คำว่า Meso-No needles ค่ะ

คือ เหมือนการเติมวิตามิน/สารอาหารให้ผิว โดยไม่ต้องใช้เข็ม และมีการทำวิจัยเทียบกับ Iontophoresis ว่าลงถึงระดับเซลล์ผิวได้มากกว่าวิธีดังกล่าวประมาณ 10 เท่า ดังนั้น Infusion จึงเหมาะกับผู้ที่อยากให้หน้าชุ่มชื้น ผิวดูกระจ่างขาวใสขึ้น ในช่วงเวลาจำกัดค่ะ โดยการทำ Infusion ใช้เวลา 1 ครั้งประมาณ 15-30 นาที ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละคน ถ้าถามความเห็นส่วนตัว หมอว่า เป็นวิธีที่สะดวกค่ะ นอกจากได้นอนพักนวดหน้า แล้วยังตื่นขึ้นมาหน้าดูมีน้ำมีนวลขึ้น ;) เหมาะไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีเวลาพักผ่อนน้อย แต่ต้องการกอบกู้ผิวให้ชุ่มชื้นค่ะ


(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 


1.2) Nobleen Laser : เลเซอร์จากอเมริกาที่ทำได้ทุกสีผิว และทุกสภาพผิวค่ะ เนื่องจากเป็นเลเซอร์เย็น ; ที่เรียกแบบนี้เพราะเจ้าเลเซอร์ Nobleen มีระบบ Cryogen เป็นไอเย็นปล่อยผ่านผิวชั้นบน พร้อมไปกับเวลาที่ยิงเลเซอร์เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ไหม้จากแสงที่เปลี่ยนเป็นความร้อนใต้ผิวค่ะ

Nobleen Laser เป็นเลเซอร์ในกลุ่ม Long Pulse NdYag 1064 nm ลงลึกถึงชั้น Dermis ใต้ผิวหนัง จึงทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวยกกระชับขึ้นด้วยค่ะ


(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 

นอกจากนี้ Nobleen Laser ผ่านช่วงที่มี Oxyhemogoblin ทั้งชั้นเม็ดเลือดแดง และเม็ดสีเมลานิน รวมถึงเส้นเลือด เมื่อแสงจากเลเซอร์มีปารดูดซับเม็ดสี จึงช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียน ลดจุดด่างดำ และยังนำมาใช้ลดเส้นเลือดฝอยได้ ทำให้ลดอาการแดงจากเส้นเลือดหรือผื่นแพ้ได้ด้วยค่ะ

อีกทั้งความยาวคลื่น 1064 nm ของ Nobleen Laser ลงที่รากขน และรูขุมขน จึงทำให้นำมาใช้กำจัดขน กระชับรูขุมขน และลดสิวเสี้ยน ซึ่งเกิดจากการกระจุกกันของเส้นขนขนาดเล็กอยู่ในรูขุมขนได้ด้วยค่ะ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำจากปัญหาเส้นเลือดฝอยบริเวณใต้ตา จึงสามารถนำ Nobleen Laser มาลดปัญหานี้ได้ และช่วยลดริ้วรอยจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปพร้อมกันด้วยค่ะ

ผลที่คาดหวังจากการทำเลเซอร์ Nobleen เท่าที่ลองกับตัวหมอเองและติดตามจากคนไข้จะรู้สึกคล้ายๆกันคือ ในวันถัดไปรู้สึกได้ว่า หน้านุ่ม เรียบเนียนขึ้น ด้วยความที่เป็นผู้หญิงและทางแป้ง จะรู้สึกว่าแป้งเนียนติดหน้ามากขึ้นค่ะ (ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ)

1.3) Peeling เป็นการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งขึ้นกับสารประกอบที่เราเล่อกใช้ในการทำ Peeling แต่ละครั้งค่ะ
โดยปกติผิวเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวเฉลี่ยทุก 28 วัน ดังนั้นการที่เราเลือกทำ Peeling คือ ต้องการให้ผลการผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้น

สารประกอบในน้ำยา Peeling ปัจจุบัน มีให้เลือกใช้หลากหลายชนิดค่ะ มีทั้งผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวลอกมาก ลดความมัน และทำให้หัวสิวแห้งไปด้วย หรือยังมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจำพวก Whitening agent ที่ใช้ปรับสีผิว ลดจุดด่างดำ เช่น วิตามินซี, Kojic , Arbutin , etc.

ดังนั้นผู้ที่เหมาะกับ Peeling ควรจะต้องผิวไม่แห้งมาก มีการบำรุงเตรียมผิวมาก่อนบ้าง หากมีแพลนจะไปทริปที่เลี่ยงแดดไม่ได้ ก็ยังไม่ควรทำนะคะ หรือควรปรึกษาแพทย์ประเมินจากสภาพผิวของท่านก่อนค่ะ

1.4) Fraxel ใช้หลักการ Fractional Laser ขออธิบายแบบภาษาง่ายๆค่ะ ว่าเปรียบเสมือนลำแสงที่หมุนผ่านผิวแต่ละชั้นของเรา ตั้งแต่ผิวหนังชั้นบน ( หนังกำพร้า/ชั้นขี้ไคล ) ผ่านลงไปถึงชั้นหนังแท้ ( Dermis ) และเจาะรูเล็กๆขนาดเป็นไมครอนใต้ผิวแต่ละชั้น โดยไม่มีเลือดออกบนผิวเนื่องจากแสงมีขบวนการ Coagulation ที่ห้ามเลือดในผิวเราไปในตัวค่ะ


(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 

ถ้าลองนึกภาพตามที่หมออธิบายมานี้ ก็จะพอได้ไอเดียค่ะว่า Fraxel จึงนำมาช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายเรื่องเลย ทั้ง :-
  • ฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ
  • ริ้วรอย ผิวไม่เรียบเนียน
  • แผลเป็น รักษาหลุมสิว แผลผ่าตัด
  • กระชับรูขุมขน ลดหน้ามัน
  • ต่อมไขมันโต สิวเสี้ยน
  • ขนคุด ใต้วงแขนคล้ำ
  • ลดรอยแตกลาย
เนื่องจากลำแสงเลเซอร์ Fraxel ผ่านผิวแต่ละชั้น และจะทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนด้วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการทำ Fraxel หมอแนะนำว่า ควรมีการบำรุงและดูแลผิว ให้ไม่แห้งมากก่อนมาทำค่ะ และหากจะต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรงดไปก่อนนะคะ ถ้ามีแพลนที่เลี่ยงไม่ได้แนะนำว่า ให้เลือกวันทำ 2 สัปดาห์+/- ทั้งก่อนและหลังที่จะมีกิจกรรมกลางแจ้ง หรือมีงานสำคัญค่ะ เพื่อที่จะหน้าใสทั้งทีจะได้ไม่มีคนผิดสังเกตว่า เราแอบไปทำอะไรมาค่ะ

การทำ Fraxel เจ็บไหม? รู้สึกอย่างไร? ต้องดูแลอะไรพิเศษไหม? เมื่อไรเห็นผล?
มาถึงตรงนี้หมอขอตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวที่หมอได้ทำ Fraxel ไปนะคะ อาจจะแตกต่างจากบางท่าน ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละท่านด้วยค่ะ

การทำ Fraxel เจ็บไหม?
มีการทายาชาก่อนทำ Fraxel 30 นาที จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บค่ะ

การทำ Fraxel รู้สึกอย่างไร?
- ขณะทำจะมีการเป่าลมเย็นช่วยให้ผิวสบายขึ้น และลดความร้อนจากแสงสะสมใต้ผิว อาจมีอาการร้อนวูบวาบ หรือรู้สึกแสบผิวขณะทำถึงหลังทำประมาณ 2-3 ชม.แรกค่ะ
- หลังจากนั้นแต่ละท่านอาจจะรู้สึกต่างกันค่ะ เนื่องจากปกติหมอค่อนข้างผิวแห้งและเป็นภูมิแพ้ ทุกครั้งที่ทำ Fraxel ผิวจะแดงนานประมาณ 3-7 วันขึ้นกับค่าพลังงานที่ปรับ แต่เมื่อจับผิวจะรู้สึกสากๆหน้า 3-5 วันแรกค่ะ

การทำ Fraxel ต้องดูแลอะไรพิเศษไหม?
- ควรระคายผิวให้น้อยที่สุด
- แนะนำว่า งดล้างหน้า งดแต่งหน้าประมาณ 12-24 ชม.หลังทำ
- และควรบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นหลังทำโดยเฉพาะ 1-2 สัปดาห์หลังทำ Fraxel
- เลี่ยงแดด ทาครีมกันแดด Spf 50 ขึ้นไปเป็นประจำ
- สามารถแต่งหน้าได้ในวันรุ่งขึ้น 12-24 ชม.หลังจากทำ Fraxel
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ความร้อน หรือการกระตุ้นเหงื่อ เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองง่าย

การทำ Fraxel เมื่อไรเห็นผล?
- ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังทำจะเริ่มสังเกตได้ว่า หน้าขาวกระจ่างใสขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น

*ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพปัญหาผิวแต่ละท่านค่ะ โดยเฉลี่ยหลังการทำ Fraxel แต่ละครั้งช่วยแก้ปัญหาให้ดีขึ้นประมาณ 10-30%ค่ะ

2. หน้ามัน สิวขึ้นง่าย รูขุมขนกว้าง
ปัญหาหน้ามันอาจจะเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายคน ไม่ใช่แค่หน้าร้อน สำหรับบ้านเรา จริงไหมคะ?
วิธีแก้ที่หมอลองรวบรวมจากการถามคนไข้นะคะ

2.1) กระดาษซับมัน
ถามว่า ใช้ได้ค่ะ แต่อาจแก้ปัญหาได้เป็นครั้งคราวนะคะ

2.2) เวชสำอางค์หรือผลิตภัณฑ์ที่มี Silicone เป็นส่วนประกอบ
การใช้ผลิตภัณฑ์จำพวก Silocone base ซับความมัน หรือให้ความรู้สึกว่า ผิวแห้งขึ้นบริเวณที่ทาเป็นครั้งคราวเช่นกันค่ะ แต่สารดังกล่างนี้จะไม่ได้ลงไปช่วยลดน้ำมันใต้ผิวนะคะ

2.3) การใช้กรดผลไม้
กรดผลไม้อยู่ในประเภทสารผลัดผิว ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ค่ะ แต่การใช้กรดผลไม้เป็นประจำ มีความเสี่ยงเช่นกันที่ทำให้ผิวบางจากการผลัดผิว และแพ้กรดผลไม้ ทำให้ระคายเคืองผิว อย่างไรก่อนจะเลือกใช้สารจำพวกกรดผลไม้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ

2.4) การใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ
เป็นยาที่ลดการทำงานของต่อมไขมัน ช่วยลดหน้ามันได้ค่ะ แต่เมื่อมีการใช้ยา ก็มีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการใช้ยา ดังนี้ค่ะ :-
  • สะสมที่ตับ ทำให้การทำงานของตับผิดปกติได้
  • ไม่สามารถใช้ในสตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากมีผลกับการสร้างอวัยวะของเด็กในครรภ์
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด ฉุนเฉียว ซึมเศร้า จากยา
  • สารคัดหลั่งและผิวแห้ง เช่น ตาแห้ง ปากแห้ง
  • มีผลข้างเคียงกับยาปฏิชีวนะบางชนิด
2.5 ) เลเซอร์ Smoothbeam
หมอขอกล่าวถึงเฉพาะเลเซอร์นี้ เนื่องจากประสบการณ์ตรงกับการใช้ Smoothbeam ดูแลคนใกล้ตัว ญาติ และเพื่อนๆแล้วได้ผลดีนะคะ ;)

(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 

หมอขอใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ในการอธิบายถึง Smoothbeam Laser ว่าทำงานอย่างไรค่ะ?
Smoothbeam Laser เป็นแสงที่ลงไปมีผลกับ Sebaceous Gland หรือต่อมไขมันใต้ผิวในชั้น Dermis ค่ะ ทำให้การทำงานของต่อมไขมันลดลงโดยขณะที่ทำ Smoothbeam Laser จะมีการปล่อยความเย็น Cryogen Spray ลงไปพร้อมกับลำแสง เพื่อไม่ให้มีการไหม้ผิว และไม่แสบร้อนผิวขณะทำ
ดังนั้นการทำ Smoothbeam Laser จึงไม่มีเลือดออก ไม่มีแผล ไม่มีรูเปิดของผิว

Smoothbeam นำมาลดหน้ามัน? รักษาสิวได้อย่างไร?
Smoothbeam Laser ทำงานโเยทำให้น้ำมันในต่อมไขมันค่อยๆแห้ง และลดการอักเสบของต่อมไขมัน อีกทั้งลำแสง Smoothbeam Laser ลงไปกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิวหนังในชั้น Dermis จึงเป็นการช่วยป้องกันรอยยุบตัว รอยบุ๋มจากสิว ด้วยค่ะ
เมื่อทำ Smoothbeam laser ต่อเนื่อง คนไข้จึงรู้สึกได้ว่า สิวยุบตัวลง เม็ดเล็กลง อักเสบน้อยลง จนไม่ขึ้นใหม่ และผลพลอยได้ที่เจ้าตัวจะรู้สึกได้คือ หน้ามันน้อยลง รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น จากการที่มีการกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิวค่ะ ;)
มาถึงตรงนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความที่ค่อนข้างยาวนี้ เอาเป็นว่า หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณเรื่องไหนที่ข้องใจ สามารถแวะมาปรึกษาหมอที่ 55th Clinic, Silom Complex ได้ตลอดนะคะ
หมอและคุณหมอทุกท่าน รวมทั้งน้องๆผู้ช่วยแพทย์ที่นี่ ยินดีให้คำปรึกษาและดูแลทุกท่านเสมอค่ะ ;)

: เรียบเรียงบทความโดย พญ.สุรัติ อัศวานุชิต ( หมอCherry )
แพทย์ผู้บริหาร 55th Clinic, Silom Complex
แชทผ่าน Facebook
แชทผ่าน Line
โทรศัพท์